เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงอยากมีมุมทำงานในสวนบ้าง ไม่ต้องถึงกับเป็นห้อง แค่เป็นมุมทำงานเล็ก ๆ ที่มีตู้เก็บอุปกรณ์ให้คุณทำงานในสวนได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น หรือมีพื้นที่ทำ
งานเล็ก ๆ น้อย ๆ ในสวน เช่น ย้ายกระถางหรือเพาะชำต้นไม้ ก็คงดีไม่น้อย
เฟอร์นิเจอร์เก่า ๆ ที่ไม่ใช้แล้ว อาจเป็นตู้กับข้าว ตู้หนังสือ หรือแม้แต่โต๊ะทำงาน สามารถประยุกต์เป็นตู้เก็บอุปกรณ์ในสวนได้ เพียงตรวจดูสภาพให้แข็งแรง เพิ่มอุปกรณ์เสริมบางอย่าง และทาสีใหม่ให้ดูสวยงาม มีลักษณะคล้ายแพนทรี่เล็ก ๆ มีตู้ที่มีฝาปิดด้วยก็ยิ่งดี เพื่อเก็บสารเคมีต่าง ๆ ให้ปลอดภัยจากมือเด็ก เตรียมตู้ให้พร้อม แล้วเริ่มจัดแจงหาพื้นที่ในตู้ให้เหมาะสมกับของใช้ต่าง ๆ ในสวนกันเลย…
จากตู้เก่าเหลือใช้กลายเป็นตู้เก็บอุปกรณ์สวน
– เครื่องมือทำสวนอย่างช้อนปลูก ส้อมพรวน กรรไกรตัดกิ่ง หลังใช้งานควรตากให้แห้ง การเก็บโดยแขวนให้มีลมผ่านจึงน่าจะเป็นวิธีเก็บที่ดีที่สุด เพื่อป้องกันสนิมขึ้น ทำที่แขวนง่าย ๆ โดยเจาะผนังด้านหลังหรือข้างตู้ แล้วติดตะขอตัวซี ควรเว้นระยะห่างให้พอดีกับจำนวนอุปกรณ์
– พื้นที่หน้าโต๊ะควรเว้นไว้ให้โล่ง ไม่ควรวางของเกะกะ เพื่อให้สะดวกในการใช้งาน อย่างการย้ายกระถางปลูกหรือการตัดชำ ท็อปโต๊ะควรกรุด้วยวัสดุที่ทำความสะอาดง่าย เช่น ลามิเนต เซรามิก หรือหินแกรนิตผิวมัน
– ลิ้นชักหรือส่วนของตู้ที่มีบานปิดเหมาะจะใช้เก็บของที่ไม่ควรถูกความชื้น เช่น เมล็ดพันธุ์ ป้ายชื่อต้นไม้ ปากกา หนังสือ ถุงมือ เป็นต้น
– พื้นที่ด้านใต้โต๊ะหรือตู้เหมาะสำหรับเก็บถุงดินหรือวัสดุปลูก รวมทั้งกระถางหรือถุงหิน เนื่องจากของเหล่านี้มีน้ำหนักมาก การยกขึ้นเก็บในที่สูงอาจทำได้ลำบาก
– ถ้าจะให้ดีและสะดวกยิ่งขึ้นควรจัดให้มีอ่างล้างมือเล็ก ๆ หรือจะประยุกต์อ่างล้างจานเก่า ๆ มาใช้ก็ได้ วางข้าง ๆ ตู้อุปกรณ์ เพื่อให้สะดวกในการล้างทำความสะอาดอุปกรณ์ต่าง ๆ หรือจะใช้อ่างเซรามิกก้นลึกก็เหมาะ ก๊อกน้ำควรใช้แบบมีก้านยาว มือที่เลอะเทอะจะได้ไม่เปื้อนก๊อกน้ำเวลาเปิด
– ใกล้ ๆ กันควรมีถังขยะเพื่อให้สวนดูสะอาดเรียบร้อย โดยแยกเป็นสองถัง สำหรับขยะแห้งและขยะเปียก ตำแหน่งของตู้เก็บอุปกรณ์
– ไม่ควรอยู่ห่างจากตัวบ้านมากนัก หากเป็นไปได้ควรจัดให้อยู่ใกล้กับประตูด้านหลังบ้าน เพื่อความสะดวกในการหยิบข้าวของจากในบ้าน และขณะที่ทำงานในสวนก็สามารถดูแลบ้านได้ด้วยในกรณีที่อยู่บ้านคนเดียว
– ควรอยู่ภายใต้ชายคาและยกพื้นให้สูงถ้าทำได้ เพื่อไม่ให้โดนน้ำฝนโดยตรง ซึ่งอาจทำให้ตู้ผุพังได้ง่าย อีกทั้งอาจทำความเสียหายให้กับอุปกรณ์ต่าง ๆ ด้วย
– ควรมีทางเดินจากหน้าบ้านหรือโรงรถมาถึงจุดที่วางตู้ เพื่อความสะดวกในการขนย้ายถุงดินหรือหินที่เพิ่งซื้อมาเก็บในตู้
– หากมีอุปกรณ์ที่มีความยาวมาก ๆ เช่น ไม้กวาด ไม้ตะกร้อ กรรไกรตัดกิ่ง ควรหาที่เก็บหรือที่แขวนที่ปลอดภัย ไม่ให้ล้มหรือหล่นลงมา.
บ้านและสวน
cr . dailynews
