เลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์มือสองอย่างชาญฉลาด

972
เลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์มือสองอย่างชาญฉลาด
เลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์มือสองอย่างชาญฉลาด

ซื้อเฟอร์นิเจอร์มือสอง นอกจากจะช่วยให้คุณประหยัดงบประมาณได้แล้ว ยังอาจทำให้คุณได้ของตกแต่งบ้านที่ไม่เหมือนใคร แต่จะเลือกจะซื้ออย่างไรให้ได้ทั้งของสวยและดี “บ้านและสวน” มีข้อแนะนำมาฝากกัน ดังนี้

เฟอร์นิเจอร์ไม้
จุดพิจารณา

1. การเข้าไม้ เป็นวิธีการยึดไม้สองชิ้นเข้าด้วยกัน ข้อควรระวังคือ ให้ดูว่าไม้ชิ้นที่ใช้ยึดมีการยืดตัวหรือไม่ เพราะอาจทำให้เฟอร์นิเจอร์ของคุณขยาย ปริ แตก หรือถ้ามีการหดตัว ส่วนที่เชื่อมกันไว้ก็อาจหลุดออกจากกันได้

2. สาเหตุของการยืด หด หรือการโก่งตัวของไม้ก็คือความชื้น ถ้าเกิดความชื้นเล็กน้อยเป็นบางจุดก็มีวิธีบรรเทาอาการได้ด้วยการขัดผิวไม้ แล้วทาน้ำมันสำหรับไม้ทับอีกชั้น

3. เฟอร์นิเจอร์ไม้ MDF เป็นการผสมเยื่อไม้และวัสดุยึดติดแล้วนำมาอัดเป็นแผ่น จะมีราคาถูกกว่าเฟอร์นิ เจอร์ไม้จริง แต่ไม่แข็งแรงทนทานเท่า หากนี่เป็นตัวเลือกของคุณให้ดูที่พื้นผิวปิดหน้าว่าโก่งงอตัวหรือไม่ ไม้ชนิดนี้มักถูกนำมาใช้ในงานบิลต์อินมากกว่า เพราะมีพื้นผิวเรียบละเอียด สามารถพ่นหรือทาสีได้สวยเรียบโดยไม่มีขั้น
ตอนมากเท่าไม้จริง

การดูแลรักษา

1. ใช้ผ้าแห้งเช็ดฝุ่นเป็นประจำ ควรเป็นผ้าสัก หลาดหรือผ้าชามัวร์ เพราะมีผิวสัมผัสอ่อนนุ่ม ไม่ทำให้เกิดรอยขีดข่วน

2. ถ้ามีรอยแตก ให้ใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ชุบน้ำจนเปียกอัดตรงรอยแตก แล้วรีดบริเวณนั้นด้วยเตารีดร้อน ๆ ใยไม้ที่ถูกกดจะขยายกลับคืนสู่สภาพเดิม หลังจากนั้นให้ขัดเงาตามปกติ

3. ถ้ามีรอยขีดข่วน ให้ใช้ผ้าแตะยาเช็ดรองเท้าที่มีสีเดียวกันกับไม้ถูตรงรอยนั้น แล้วใช้ผ้าแห้งเช็ดอีกครั้ง

เฟอร์นิเจอร์บุผ้า
จุดพิจารณา

1. ชนิดของผ้าเป็นเรื่องสำคัญ เพราะผ้าเป็นวัสดุเก็บฝุ่น ควรเลือกผ้าเส้นใยธรรมชาติเพื่อระบายอากาศได้ดี

2. เลือกแบบที่สามารถถอดผ้าหุ้มออกทำความสะอาดได้ เช่น แบบที่เย็บด้วยยางยืดเพื่อใช้คลุมเฟอร์นิเจอร์ทั้งชิ้น หรือแบบที่เป็นซิป เป็นต้น

การดูแลรักษา

1. ดูดฝุ่นด้วยเครื่องดูดฝุ่นหรือใช้ผ้าชุบน้ำหมาด ๆ เช็ดเป็นประจำ ถ้าเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ถอดผ้าหุ้มออกได้ก็ควรถอดไปทำความสะอาดอย่างน้อย เดือนละครั้ง แต่ถ้าไม่สามารถถอดผ้าหุ้มออกได้ ก็ให้ใช้วิธีซักแห้งแทน

2. แนะนำว่า เมื่อซื้อเฟอร์นิเจอร์หุ้มผ้ามือสองมาควรจะเปลี่ยนผ้าหุ้มด้วยเลย เพราะผ้าจะเก็บฝุ่นและเชื้อโรคได้ง่าย บางครั้งการซักก็อาจไม่เพียงพอ และผ้าหุ้มเฟอร์นิเจอร์ก็มีราคาไม่สูงมากเมื่อเทียบกับหนัง

เฟอร์นิเจอร์บุหนัง
จุดพิจารณา

1. ทดสอบคุณภาพของสปริงหรือฟองน้ำด้วยการลองนั่ง ถ้าคืนตัวเร็วแสดงว่าคุณภาพยังดีอยู่

2. ถ้าเป็นโครงไม้ ลองเช็ก ดูว่าทำจากไม้ชนิดใด เพราะถ้าทำจากไม้เนื้ออ่อน เช่น ไม้รังหรือไม้ฉำฉา จะมีน้ำหนักเบา แต่ไม่คงทนเท่ากับไม้เนื้อแข็งอย่างไม้เต็ง ไม้ทุเรียน หรือไม้จำปาถึงจะหนักกว่า แต่รับประกันความแข็งแรง

3. เฟอร์นิเจอร์หนังแท้ เมื่อนั่งแล้วจะให้ความรู้สึกนิ่ม สบาย ไม่ร้อนอึดอัด หรือเกิดความเหนียวหนึบบริเวณผิวหนัง

4. หากดูด้วยตา เฟอร์นิเจอร์หนังแท้จะมีรอยเย็บ เพราะการหาผืนหนังที่มีความกว้างและยาวพอที่จะคลุมเฟอร์นิเจอร์ได้ทั้งชิ้น เป็นเรื่องยาก ต่างกับหนังเทียมที่เป็นวัสดุสังเคราะห์ซึ่งสามารถผลิตและสั่งตัดความกว้าง ยาวได้ตามต้องการ

การดูแลรักษา

1. ถ้าเป็นเฟอร์นิเจอร์หนังแท้ ให้ใช้น้ำยาทำความสะอาดหนังโดยเฉพาะ เพราะน้ำยาทำความสะอาดแบบอเนกประสงค์จะทำให้หนังแข็งกระด้าง หรือถ้าเป็นหนังสีขาวจะทำให้เกิดคราบสีเหลืองในระยะยาวได้

2. เมื่อเกิดรอยเปื้อนแม้เพียงนิดเดียว ควรรีบทำความสะอาดเพราะถ้าปล่อยไว้นาน รอยจะฝังลึก แล้วทำความสะอาดยากขึ้นเรื่อย ๆ จะใช้ผ้าหรือฟองน้ำชุบน้ำเช็ดออกก็ได้

3. หากหนังมีรอยแตก–ปริไม่มากสามารถนำไปให้ร้านรับซ่อมเฟอร์นิเจอร์ช่วยซ่อมแซม ให้ได้ แต่ถ้ามีความสึกหรอเป็นวงกว้าง แนะนำว่าควรหุ้มหนังใหม่จะเลือกใช้หนังแท้เฉพาะส่วนที่นั่งหรือพนักพิงผสม กับหนังเทียมในส่วนของที่เท้าแขนเพื่อประหยัดงบประมาณก็ได้.

ที่มา เดลินิวส์